การลดน้ำหนักทำอย่างไร
การลดน้ำหนักทำอย่างไร
ปัจจุบันเชื่อกันไหมว่าสาวๆ หรือแม้แต่หนุ่มๆ ก็หันมาสนใจกับการรักษารูปร่างด้วยวิธีลดน้ำหนักแบบธรรมชาติกันมากขึ้น ไม่ว่าจะด้วยการทานอาหารคลีน รวมไปถึงการออกกำลังกายทั้งการวิ่ง หรือ เข้าฟิตเนส แต่หลายๆ คน
ก็อาจจะมองว่าการไปออกกำลังกายนั้นเสียเวลา แถมยังเหนื่อยอีก ดังนั้นจึงหันไปพึ่งยาลดความอ้วนแทน เพราะสามารถหาซื้อได้ง่ายทั้งทางสื่อสังคมออนไลน์หรือแม้แต่แผงตลาดใกล้บ้าน ซึ่งการใช้ยาลดความอ้วนนั้นเป็นอันตราย
ต่อสุขภาพอย่างคาดไม่ถึง และอาจทำให้ถึงขั้นเสียชีวิตได้ตามข่าวที่เราได้เห็นกันมาแล้ว วันนี้เราจึงอยากจะมาแนะนำ 10 วิธีในการลดน้ำหนักง่ายๆ ด้วยวิธีลดน้ำหนักแบบธรรมชาติ ที่ไม่ต้องพึ่งยา มาให้เพื่อนๆกัน
รับรองว่าทุกคนสามารถทำได้จริงด้วย
เชื่อว่าการมีรูปร่างที่ดีและสุขภาพแข็งแรงเป็นความฝันของผู้หญิงทุกคน ทำให้หลายๆ คนหันมาดูแลตัวเองด้วยการลดน้ำหนัก แต่วิธีลดน้ำหนักก็มีหลายแบบ บางคนอาจไม่สะดวกไปเข้าฟิตเนส ก็อาจหันมาออกกำลังกายง่ายๆ
ด้วยตัวเองที่บ้าน พร้อมกับการควบคุมอาหารเพื่อสุขภาพ แทนการหันไปพึ่งยาลดความอ้วน ซึ่งอาจส่งผลเสียและเป็นอันตรายต่อร่างกายได้
10 วิธีลดน้ำหนักง่ายๆ ด้วยตัวเอง สําหรับคนลดยาก มีอะไรบ้าง?
การลดน้ำหนักอย่างถูกวิธีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่เราพยายาม ไม่ท้อถอย และมีระเบียบวินัยต่อตัวเอง สาวๆ ที่อยากเริ่มลดน้ำหนักแบบง่ายๆ เริ่มทำได้ด้วยวิธีดังต่อไปนี้
1. กินอาหารคีโต
การกินอาหารแบบคีโตเจนิก ไดเอต หรือ "กินคีโต" ก็เป็นอีกทางเลือกสำหรับคนที่ต้องลดน้ำหนัก โดยจะเป็นการกินที่เน้นปริมาณไขมันสูง โปรตีนปริมาณปานกลาง และคาร์โบไฮเดรต (แป้ง)
ในปริมาณที่น้อยมาก เพื่อให้ร่างกายดึงพลังงานจากส่วนอื่นๆ มาทดแทน เช่น การกินไขมันจากเนื้อสัตว์, เนื้อติดมัน, น้ำมันหมู, น้ำมันมะพร้าว, ไขมันจากพืช, เนย, ชีส, ถั่ว, ธัญพืช รวมถึงอาหารที่ทำจากนม เป็นต้น
2. ดื่มน้ำก่อนมื้ออาหาร
วิธีลดความอ้วนที่ทำได้ง่ายมากๆ และเหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นลดน้ำหนัก ที่ต้องการลดปริมาณการกินอาหารในแต่ละวันลง ให้ดื่มน้ำเปล่า 1 แก้ว ก่อนจะถึงมื้ออาหารประมาณ 30 นาที วิธีนี้จะทำให้เรากินข้าวได้น้อยลง
และทำให้หิวน้อยลงด้วย นอกจากนี้ ระหว่างวันก็อย่าลืมดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด อีกทั้งยังทำให้ผิวชุ่มชื้นขึ้นอีกด้วย
3. ลดความถี่ในการดื่มน้ำหวาน ชาไข่มุก และน้ำอัดลม
ผู้หญิงหลายคนดื่มน้ำหวานประเภทต่างๆ จนติดเป็นนิสัย ทั้งที่ความจริงแล้วเครื่องดื่มเหล่านั้นมีปริมาณน้ำตาลที่สูงมาก อีกทั้งมีสารปรุงแต่งกลิ่นอีกมากมาย หากบริโภคในปริมาณที่มากติดต่อกันทุกวัน
แน่นอนว่าทำให้เราอ้วนและมีไขมันสะสมได้ง่ายๆ ลองปรับเปลี่ยนใหม่ด้วยการหันมาดื่มน้ำผลไม้ปั่น น้ำเปล่า หรือน้ำวิตามินเกลือแร่แทน นอกจากดีต่อสุขภาพแล้ว ยังประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย
4. เคี้ยวอาหารให้ละเอียด
แม้ว่าการลดน้ำหนักด้วยวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ง่ายสุดๆ แต่ก็เชื่อว่ากลับเป็นเรื่องที่ยากสำหรับหลายๆ คน ที่มักจะรับประทานอาหารอย่างรวดเร็ว จนลืมที่จะเคี้ยวอาหารแต่ละคำให้ละเอียด ซึ่งข้อดีของการเคี้ยวอาหารช้าๆ
ที่หลายคนอาจมองข้ามไปก็คือ จะทำให้ร่างกายดูดซึมสารอาหารอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้เราอิ่มเร็ว และกินอาหารในปริมาณที่น้อยลงกว่าเดิมนั่นเอง
5. เพิ่มปริมาณผักและผลไม้
ผักและผลไม้ถือเป็นส่วนหนึ่งของอาหาร 5 หมู่ ที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย เนื่องจากให้วิตามินและเกลือแร่สูง ช่วยให้ระบบย่อยอาหารทำงานดีขึ้น ลดอาการท้องผูก ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง อีกทั้งยังมีส่วนช่วย
ในการควบคุมน้ำตาลในเลือดด้วย ดังนั้น ในการกินอาหารแต่ละมื้อ ควรเพิ่มปริมาณผักสัก 2 ทัพพี และเลือกกินผลไม้หลากหลายชนิดเป็นประจำ
6. หลีกเลี่ยงอาหารสำเร็จรูป
เนื่องจากไลฟ์สไตล์ของคนยุคนี้ที่ใช้ชีวิตอย่างรีบเร่ง และเน้นความสะดวกสบาย ทำให้อาหารสำเร็จรูป อาหารกึ่งสำเร็จรูป และอาหารแช่แข็งกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวัน แต่ใครที่มีพฤติกรรมแบบนี้
ควรปรับเปลี่ยนเสียใหม่ เนื่องจากอาหารเหล่านี้มีปริมาณโซเดียมสูง ซึ่งการบริโภคในปริมาณที่มากเกินไป จะทำให้ร่างกายกักเก็บน้ำไว้ใต้ผิวหนัง ทำให้หลายคนมีอาการ "หน้าบวม" และทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นด้วย
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกแนะนำให้บริโภคโซเดียม ไม่เกินวันละ 2,000 มิลลิกรัม แต่พบว่าคนไทยส่วนใหญ่บริโภคเฉลี่ยวันละ 3,636 มิลลิกรัม ซึ่งเทียบเท่ากับเกลือ 8 ช้อนชาเลยทีเดียว
7. งดของทอด
การลดน้ำหนักและไขมันสะสมในร่างกายอย่างเร่งด่วน นอกจากออกกำลังกายควบคู่ไปกับการคุมอาหารแล้ว ก็อย่าลืมงดบริโภคอาหารประเภทของทอดที่เป็นตัวการเพิ่มน้ำหนัก ทางที่ดีในช่วงนี้ควรหันมา
กินอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ เลือกอาหารที่มีปริมาณแคลอรีต่ำ แม้อาจจะรู้สึกอยากกินนู้นกินนี่ในช่วงแรกๆ แต่ผ่านไปสัก 2-3 วัน ก็จะเริ่มชินมากขึ้น เพียงแค่นี้เป้าหมายในการลดน้ำหนักก็อยู่แค่เอื้อมไปอีกขั้น
8. เล่นโยคะ
การเล่นโยคะนอกจากช่วยลดน้ำหนักและบำบัดอาการออฟฟิศซินโดรมแล้ว ยังช่วยลดความเครียดได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นวิธีการสร้างสมดุลให้ร่างกายและระบบไหลเวียนโลหิต ผสานกับกล้ามเนื้อและการหายใจเข้า-ออก
อีกทั้งยังสลายไขมันและทำให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงเพิ่มขึ้นอีกด้วย
c9. เล่นฮูลาฮูปวันละ 30 นาที
สำหรับคนที่ขี้เกียจออกกำลังกาย หรือไม่มีเวลาไปเข้าฟิตเนส ก็ลองหาฮูลาฮูปมาเล่นที่บ้านแบบเพลินๆ วันละ 30 นาที เพื่อช่วยเผาผลาญไขมันไปในตัว โดยเฉพาะบริเวณเอว หน้าท้อง และสะโพก ถือเป็นการขยับเคลื่อนไหว
ร่างกายให้ระบบการไหลเวียนเลือดดี แถมการเล่นที่บ้านเรายังแก้เบื่อได้ด้วยการเปิดโทรทัศน์หรือดูซีรีส์ควบคู่ไปด้วยก็ได้
10. พักผ่อนให้เพียงพอ
วิธีลดน้ำหนักที่จำเป็นมากๆ ต่อสุขภาพ ซึ่งหลายคนอาจมองข้ามไปก็คือ การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ประมาณวันละ 7-8 ชั่วโมง และควรกินอาหารมื้อเย็นให้เสร็จก่อนเข้านอน ราวๆ 3-4 ชั่วโมง เนื่องจากการนอนหลับที่มีคุณภาพนั้น
จะเพิ่มประสิทธิภาพในการเผาผลาญขณะที่เรานอนหลับพักผ่อน นอกจากนี้ คนที่นอนน้อยมักจะมีสีหน้าที่ไม่แจ่มใส รู้สึกเหนื่อยล้า หิวบ่อย และรู้สึกอยากกินแป้งและน้ำตาลมากขึ้นอีกด้วย
สุดท้ายนี้ แต่ละคนก็อาจมีเทคนิคและวิธีลดน้ำหนักที่แตกต่างกันออกไป เพียงแค่หาวิธีที่เหมาะสมกับตัวเองให้เจอ ค่อยๆ ทำสะสมไปเรื่อยๆ จนติดเป็นนิสัย หากทำได้ ไม่เพียงแค่มีรูปร่างที่ดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังได้สุขภาพดีๆ กลับมาเป็นของแถม