สิวเกิดจากอะไร และวิธีการรักษา

   -      สิวเกิดจากอะไร รู้จักสาเหตุของสิวเพื่อการดูแลที่ตรงจุด  สิวเกิดจากอะไร รู้จักสาเหตุของสิวเพื่อการดูแลที่ตรงจุด

   สิว เป็นเรื่องธรรมชาติ ส่วนหนึ่งมีสาเหตุจากปัจจัยที่ควบคุมได้ เช่น พฤติกรรมการใช้ชีวิต การรักษาความสะอาด แต่ยังมีสาเหตุอีกส่วนหนึ่งที่ไม่สามารถควบคุมได้ เช่น ระดับฮอร์โมน 

   ซึ่งมีผลต่อสภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกันดังนั้นจึงจะเห็นว่า บางคนมีปัญหาสิว สิวอุดตัน สิวอักเสบ มากกว่าคนอื่นๆ และยิ่งไปกว่านั้น ในบางรายเมื่อสิวหายแล้วก็ยังทิ้งรอยดำ รอยแดง หลงเหลืออยู่บนใบหน้าอีกด้วย

 

  สิวเกิดจากอะไร รู้จักสาเหตุของสิวเพื่อการดูแลที่ตรงจุดกัน

  1. การเกิดสิวมักเกิดจากการเกิดสิวอุดตันขนาดเล็กใต้ผิวหนัง

          2. ภาวการณ์ผลิตน้ำมันในผิวมากเกินไป และชั้นผิวก่อตัวหนาผิดปกตินั่นเอง 

          3. การเกิดสิว สิวหัวดำ และสิวหัวขาว

          4. การเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ตัวการกระตุ้นให้การอักเสบรุนแรงขึ้นและก่อให้เกิดสิวอักเสบ

                                                                             สิวเกิดจากอะไร รู้จักสาเหตุของสิวเพื่อการดูแลที่ตรงจุดกัน

        สิวและสาเหตุการเกิดสิวนั้น เป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงและถกเถียงกันมานาน แต่ส่วนใหญ่แล้วหลายคนก็ยังเข้าใจปัญหาสิวไม่ถูกต้อง จึงทำให้การดูแลรักษาสิวผิดวิธีไปด้วย ส่งผลให้กลายเป็นการทำร้ายผิวหน้า 

       ซ้ำเติมให้สิวเพิ่มขึ้นและรุนแรงมากกว่าเดิม 

       ในบทความนี้จะมาไขข้อสงสัยกันว่า สิวเกิดจากอะไรและสาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดสิวขึ้น เพื่อให้สามารถเลือกวิธีจัดการกับสิวได้อย่างถูกต้อง และตรงจุด

                                                                        .การเกิดสิวมักเกิดจากการเกิดสิวอุดตันขนาดเล็กใต้ผิวหนัง

       1.การเกิดสิวมักเกิดจากการเกิดสิวอุดตันขนาดเล็กใต้ผิวหนัง

          การอักเสบขนาดเล็กๆ ในรูขุมขน เป็นสาเหตุหลักของการเกิดสิว สิวอุดตัน คือสภาวะที่รูขุมขนเกิดการอุดตัน โดยไมโครโคมีโดน คือชื่อเรียกของสิวอุดตันที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ซึ่งเกิดจากการสร้าง-

         ชั้นเคราตินของเซลล์ผิวหนังปกติแล้วไมโครโคมีโดนจะสลายไปเองตามธรรมชาติ แต่ในกรณีของผิวเป็นสิว ในขณะที่ไมโครโคมีโดนสลายตัว จะเกิดการอักเสบใต้ชั้นผิวร่วมด้วย ซึ่งในทางการแพทย์

         เรียกการอักเสบนี้ว่า การอักเสบชนิดไม่รุนแรง

                                                             ภาวะการผลิตน้ำมันในผิวมากเกินไป และชั้นผิวก่อตัวหนาผิดปกติ

       2. ภาวะการผลิตน้ำมันในผิวมากเกินไป และชั้นผิวก่อตัวหนาผิดปกติ

       ปัจจัยภายใน เช่น การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน (ในช่วงเจริญวัยและช่วงมีรอบเดือน) รวมถึงการใช้ยาบางประเภท และปัจจัยภายนอก เช่น ผลกระทบจากมลภาวะ มีผลให้การผลิตน้ำมันในผิว

       เพิ่มขึ้นและชั้นผิวก่อตัวหนาขึ้น ซึ่งส่งผลให้เกิดสิวประเภทต่างๆ ทั้งสิวหัวดำ สิวหัวขาว โดยทั้ง 2 ปัจจัยนี้ ยังเป็นสาเหตุหลักของการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้เกิดการติดเชื้อ และท้ายที่สุด

       จะก่อให้เกิดสิวชนิดตุ่มนูนแดง และสิวหัวหนอง ภาวะผิวหนังผลิตไขมันมากผิดปกติ คือการผลิตน้ำมันส่วนเกินในผิวหนัง และภาวะชั้นผิวก่อตัวหนาขึ้นผิดปกติทำให้ต่อมไขมันอุดตันและก่อให้เกิดการสะสมน้ำมันบนผิวหนัง

                                                           การเกิดสิว สิวหัวดำ และสิวหัวขาว

      3. การเกิดสิว สิวหัวดำ และสิวหัวขาว

       สิว เป็นคำเรียกรวมๆ ของปัญหาสิวทุกประเภท ทั้งสิวอุดตัน สิวชนิดตุ่มนูนแดง สิวหัวหนอง หรือสิวที่เกิดการอักเสบ (บวมและเปลี่ยนสี) เป็นหนองและเจ็บ สิวหัวเปิด(สิวหัวดำ)

       คือสิวที่มีจุดดำเล็กๆ ปรากฏบนผิวหนัง ซึ่งสาเหตุที่สิวที่เปลี่ยนเป็นสีดำเกิดจากการทำปฏิกิริยาของน้ำมันกับออกซิเจน ไม่ได้เกี่ยวกับการสัมผัสกับฝุ่น หรือสิ่งสกปรกแต่อย่างใด

                          วิธีรักษาสิว

      วิธีรักษาสิวให้หายขาด รวมเคล็ดลับบอกลาสิวแบบง่ายๆ 

       วิธีรักษาสิว

    ในปัจจุบันมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้นวัตกรรมความงามหรือเลเซอร์ประเภทต่างๆ ในการกำจัดสิวให้หายขาด หมดปัญหากวนใจ แต่ขณะเดียวกันก็ยังมีวิธีรักษาสิวแบบธรรมชาติ 

    ที่ทุกคนสามารถทำเองได้ง่ายๆ ที่บ้าน ประหยัดค่าใช้จ่าย แถมยังปลอดภัยต่อสภาพผิวของเราอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็สามารถนำวิธีรักษาสิวที่แนะนำไปใช้กันได้

                                         

      วิธีรักษาสิวผด
     สิวผดเป็นสิวที่เกิดขึ้นได้บ่อยที่สุด มีลักษณะเป็นสิวตุ่มเล็กๆ บนใบหน้า หากไม่สังเกตอาจไม่เห็น แต่คนที่เป็นสิวผดมักจะรู้สึกรำคาญ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ อาจจะขึ้นเพิ่มมากขึ้นจนอุดตัน 

    มีลักษณะเป็นเม็ดสีแดงๆ เมื่อสัมผัสจะรู้สึกว่าผิวไม่เรียบเนียน บางคนอาจมีอาการคันร่วมด้วยสาเหตุของสิวผดมักเกิดจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง มลภาวะทางอากาศและน้ำ แพ้เหงื่อ

    ความเครียด ฮอร์โมน พักผ่อนไม่เพียงพอ ปลอกหมอนไม่สะอาด แปรงแต่งหน้าไม่สะอาด เป็นต้น สำหรับวิธีรักษาสิวผดอุดตัน มีดังนี้

           - ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนสัมผัสใบหน้า

           - ไม่แคะ แกะ เกา หรือบีบ อาจทำให้สิวผดอุดตันและอักเสบได้

           - ทำความสะอาดผิวหน้าให้หมดจด

           - ใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่นชื้นให้ผิวหน้า

           - เลิกนอนดึก พักผ่อนให้เพียงพอ 

           - ซักปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้าปูที่นอน

           - รักษาความสะอาดของอุปกรณ์แต่งหน้า

           - ดื่มน้ำสะอาด และงดกินของทอด

                    

 วิธีรักษาสิวอุดตัน

          สิวอุดตันเกิดได้บ่อยที่สุดในบริเวณตำแหน่งคางและหน้าผาก เนื่องจากเซลล์เยื่อบุผิวหนังที่ตายแล้วเกิดการอุดตัน รวมถึงต่อมไขมันใต้ผิวหนัง ผลิตไขมันมากเกินไป ทำให้เกิดสิวอุดตันทั้งแบบสิวหัวดำ

        และสิวหัวขาว เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุด้วยกัน เช่น เชื้อแบคทีเรีย สารเคมีในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสบู่ ยาสระผม และโฟมล้างหน้า รวมถึงเครื่องสำอาง สำหรับผู้หญิงมักจะเกิดสิวอุดตันในช่วงก่อน

        มีประจำเดือน ส่วนผู้ชายมักเกิดจากการสูบบุหรี่ สามารถรักษาสิวอุดตันได้โดยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ดังนี้

            -  ไม่บีบสิว ล้างมือทุกครั้งก่อนสัมผัสใบหน้า

            -   ไม่ขัดผิวหน้าอย่างรุนแรง

            -   ล้างหน้าให้สะอาดด้วยโฟมอ่อนๆ

            -   ใช้ผลิตภัณฑ์ลดการเกิดสิว

            -   เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าให้สะอาดก่อนอาบน้ำ

            -   งดสูบบุหรี่

               

         วิธีรักษาสิวอักเสบ
         สิวอักเสบ น่าจะเป็นประเภทสิวที่หลายคนกังวลใจที่สุด เกิดจากสิวอุดตันที่ติดเชื้อแบคทีเรีย มีลักษณะเป็นตุ่มนูนแดงๆ มีบางจุดอาจมีหนองอุดตัน หรือเป็นก้อนนูนขึ้นมา ในขณะที่บางคน

        เป็นสิวอักเสบไม่มีหัว ซึ่งทำให้รู้สึกเจ็บแปลบบริเวณผิวหนังที่มีขึ้นสิว หากไม่ดูแลอย่างถูกวิธี ก็อาจลุกลามเป็นสิวอักเสบเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพ และความมั่นใจในชีวิตประจำวันได้ 

        สำหรับการรักษาสิวอักเสบ รวมถึงวิธีรักษาสิวอักเสบไม่มีหัว มีดังนี้

     -  ไม่บีบสิว ไม่แคะ แกะ หรือเกา เพราะจะทำให้สิวอักเสบเพิ่มขึ้น

     -   พักผ่อนให้เพียงพอ งดกินของทอดและมัน

     -   ใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยนต่อผิว

     -   ทำความสะอาด เช็ดเครื่องสำอางออกจากใบหน้า

     -   ล้างหน้าให้สะอาด ใช้โฟมล้างหน้าอ่อนๆ

     -   งดสูบบุหรี่ หรืองดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

     -   ปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรทุกครั้ง ก่อนใช้ยาหรือเจลแต้มสิว

     -   ใช้น้ำมะนาวแต้มสิว เพื่อยับยั้งการเติบโตของแบคทีเรีย ทำให้สิวยุบเร็ว

     -    หากอาการไม่ดีขึ้น ให้ปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อรักษาให้ถูกวิธี

                                          

        การรักษาสิวหรือไม่อยากให้สิวเกิดขึ้นบนใบหน้า เราควรเน้นการรักษาใบหน้าให้สะอาด ไม่ควรแต่งหน้าจัดเป็นประจำ ไม่จับใบหน้าบ่อยเกินไป และควรรักษาความสะอาดของเส้นผม

        และปลอกหมอนอีกด้วย นอกจากนี้ควรที่จะนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอราว 6-8 ชั่วโมงต่อวัน ร่วมกับการออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานผักผลไม้ เส้นใยให้มากขึ้นกว่าเดิม

       เมื่อเราทราบข้อเท็จจริงเหล่านี้แล้ว เชื่อว่าสาวๆ ทุกคนเริ่มที่จะมีกำลังใจ และรู้ว่าควรที่จะต้องเริ่มรักษา และป้องกันสิวบนใบหน้าอย่างไรที่จะเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของตนเองที่สุด

 


                                                                                                                   จบทุกปัญหาสิวด้วย สบู่เลือดมังกร

        สบู่เลือดมังกร ทำมาจากอะไร ?

          ต้นเลือดมังกร หรือ Dragon’s blood  เป็นชื่อของต้นไม้ชนิดหนึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ประเทศเปรู ซึ่งเมื่อกรีดลำต้นหรือปลอกกิ่งของต้นเลือดมังกรก็จะเห็นว่ามีน้ำยางไหล
       ออกมาเป็นสีแดงสดเหมือนเลือด นับว่าเป็นคุณค่าแห่งความมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ ของยางไม้สีแดงที่ชนชาวอินคา หรือชนพื้นเมืองชาวเปรู และคนทั่วทั้งทวีปอเมริกาใต้ค้นพบ 
      และนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในการรักษาฟื้นฟูดูแลผิวพรรณด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่น ในการมีส่วนช่วยสมานแผลสมานผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ Dragon’s blood จึงถูกยกย่อง
      ว่าเป็นพืชมหัศจรรย์ซึ่งยังคงเป็นศาสตร์อันเก่าแก่ที่สืบทอดจากบรรพบุรุษชาวอินคาจากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
      
     สารสกัดสำคัญ ต้นเลือดมังกร 

             สมุนไพรธรรมชาติที่นิยมนำมาสกัดสารสำคัญ (Extract) แล้วเอามาเป็นส่วนผสมในสกินแคร์ เพื่อบำรุงผิวได้อย่างตรงจุดมากขึ้น และข้อดีของสกินแคร์ที่ใช้สารสกัด

     จากธรรมชาติคือ ปลอดภัยกับผิวที่บอบบาง ดีกว่าใช้ผลิตภัณฑ์จากสารเคมี ดราก้อน บลัด เป็นยางของต้นพืชมหัศจรรย์ที่ชื่อว่า Croton Lechleri หรือ Sangre de Grado 

     ซึ่งเป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ ที่อยู่ในป่าอเมซอน แถบประเทศเปรู เมื่อใช้มีดกรีดลงไปบนลำต้น จะมียางดิบสีแดงคล้ายเลือด หรือที่เรียกว่า เลือดมังกรไหลออกมา ซึ่งยางไม้สีแดงนี่เอง 

     ที่มีคุณสมบัติในการบำบัดรักษา สมานแผล สมานผิว และถูกยกย่องว่าเป็นพืชศาสตร์อันเก่าแก่

     ที่สืบทอดจากชาวอินคาในอดีตปัจจุบันนิยมนำสารสกัดจากยางดิบสีแดง มาใช้ในสกินแคร์เพื่อบำรุงผิว ในแง่ของการลดรอยดำ ลดรอยแผลเป็น ลดริ้วรอย มีคุณสมบัติช่วย

    กระตุ้นการสร้างเซลล์ผิว สร้างคอลลาเจน และยับยั้งการสร้างเอนไซม์โปรติเอส (Protease Enzyme) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่ทำลายโครงสร้างเนื้อเยื่อของผิว ช่วยให้ผิวเนียนละเอียด 

    ตึงกระชับ เนียนใส ดูอ่อนวัย

      Dragon’s blood extract เป็นวัตถุดิบที่มีประโยชน์ในการช่วยเร่งการสมานแผล ลดการอักเสบ ต่อต้านอนุมูลอิสระ และยังช่วยเป็น Barrier ปกป้องน้ำระเหยออกจากผิวได้ด้วย 

   ว่ากันว่าสีแดงในน้ำยางมาจากสารกลุ่ม Proanthocyanidins ที่พบในองุ่น และ เปลือกสน ก็เป็น Antioxidant ที่ดี ช่วยให้ผิวหน้ามีความกระชับเต่งตึง กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน 

   และอิลาสตินตามธรรมชาติ
 ลดเลือนริ้วรอย พร้อมป้องกันการเกิดริ้วรอยใหม่
 ปกป้องผิวจากมลภาวะและต่อต้านอนุมูลอิสระ
 ซึ่งตามท้องตลาดก็มีสกินแคร์ที่มีส่วนผสมของ 

   Dragon’s Blood อยู่หลายแบรนด์เลยทีเดียว แต่สำหรับเรา RED QUEEN เราเลือกใช้สารสกัดเข้มข้นและปลอดภัย และแน่นอนว่าแบรนด์ของเราก็คัดสรรสารสกัดที่มีคุณภาพ

   ที่ดีที่สุดมาผลิตลงสบู่ดราก้อนบลัด สนใจสั่งซื้อ คลิก